งานวิจัยเผย! เด็กที่เล่นแทรมโพลีน ได้คะแนนสอบสูงกว่าเพื่อนในห้อง 12%

งานวิจัยเผย! เด็กที่เล่นแทรมโพลีนได้คะแนนสอบสูงกว่าเพื่อนในห้อง 12%

ความลับที่ซ่อนอยู่ของการกระโดดแทรมโพลีน (Trampoline) เด็ก IQ สูงขึ้น!

เช็คก่อน! ลูกของคุณได้รับการพัฒนาทักษะรอบด้านหรือไม่?

✓ ลูกของคุณมีกิจกรรมออกกำลังกายที่สนุกและทำอย่างสม่ำเสมอหรือไม่?
✓ ลูกของคุณมีโอกาสได้พัฒนาการทรงตัวและการประสานงานของกล้ามเนื้อหรือไม่?
✓ ลูกของคุณหลังจากโรงเรียนเลิก ก็ให้เรียนพิเศษต่อ หรือให้ทำการบ้าน ไม่มีเวลาเล่นใช่หรือไม่?
✓ ลูกของคุณอยู่กับหน้าจอ อุปกรณ์สื่อสารนานเกิน 2 ชม ต่อวันหรือไม่?
✓ ลูกของคุณมีโอกาสได้ปลดปล่อยพลังงาน หรือฝึกทักษะการเคลื่อนไหวที่หลากหลายนอกเหนือจากการเดินและวิ่งหรือไม่?

หากคุณตอบ "ไม่" มากกว่า 2 ข้อ บทความนี้อาจเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับประโยชน์ของแทรมโพลีนที่มีต่อพัฒนาการของเด็ก!

ประเด็นสำคัญ:

  • การกระโดดบนแทรมโพลีน ช่วยเพิ่มความสามารถของร่างกายในการประสานงานระหว่างมือ ตา แขน และ ขา ซึ่งเกี่ยวพันกับพัฒนาการด้านสมอง โดยเฉพาะสำหรับเด็กที่อยู่ในวัยสมองกำลังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
  • การเล่นแทรมโพลีนช่วยพัฒนาทักษะ EF (Executive Functions) หรือ ชุดของทักษะทางสมองที่ช่วยเหลือในการควบคุมตัวเอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนากลีบสมองส่วนหน้า (Frontal Lobe)
  • การพาลูกเล่นแทรมโพลีน (Trampoline) อาจเป็นกุญแจสำคัญในการค้นพบอัจฉริยภาพของเจ้าตัวน้อยในบ้าน เพื่อเพิ่มประโยชน์จากการเล่นแทรมโพลีนได้อย่างสูงสุด ผู้ปกครองสามารถรวมกิจกรรมอื่นๆ เข้ากับแทรมโพลีน และจัดให้มีช่วงพักสมอง
  • ประสบการณ์เล่นแทรมโพลีนที่สนุกสนาน สำคัญสำหรับเด็กๆ ควรเลือกแทรมโพลีนคุณภาพสูง ได้มาตรฐานการผลิตระดับสากล เป็นแทรมโพลีนที่ปลอดภัย และเหมาะสมกับวัย เช่น มีตาข่ายกันตก หรือ แทรมโพลีนไร้สปริง

ในฐานะพ่อแม่ หลายคนพยายามมองหาวิธีการต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความสามารถ และส่งเสริมการเติบโตทางสติปัญญาของลูกๆ อยู่เสมอ การกระโดดบนแทรมโพลีนได้กลายเป็นกิจกรรมนันทนาการยอดนิยมสำหรับเด็กๆ แต่แท้จริงแล้ว การกระโดดเด้งตัวบนแทรมโพลีนอย่างเพลิดเพลินสนุกสนานนั้น ให้ผลเชิงบวกต่อการพัฒนาทางสติปัญญาของเด็กๆ จริงหรือไม่?

แทรมโพลีน (Trampoline) ทำอะไรกับสมองของเด็กๆ?

การออกกำลังกายเคลื่อนไหวร่างกาย เป็นการกระตุ้นให้เซลล์ประสาทผลิตสารเคมี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของระบบประสาท กิจกรรมเคลื่อนไหวจึงเปรียบเสมือนการเติมปุ๋ยสำหรับสมองของเด็กๆ โปรตีนที่ได้จากกระบวนการผลิตสารเคมีเหล่านี้ เป็นโปรตีนที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์สมองใหม่ และกระตุ้นให้เซลล์สมองเชื่อมต่อกับนิวตรอนอื่นๆ

เมื่อเด็กๆ กระโดดเด้งรีบาวด์บนแทรมโพลีน ร่างกายของพวกเขาจะเคลื่อนไหวในลักษณะต้านแรงโน้มถ่วง ทำให้ออกซิเจนและเลือดไหล หมุนเวียนไปยังเนื้อเยื่อได้ครบทุกส่วน ซึ่งส่งผลดีต่อเส้นประสาทระหว่างสมองซีกซ้าย และสมองซีกขวา ช่วยให้สมองแข็งแรงขึ้น

ในขณะกระโดดขึ้นๆ ลงๆ บนแผ่นไฮบาวซ์ของแทรมโพลีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่มั่นคง ร่างกายจะบังคับให้เด็กๆ จ้องไปยังจุดคงที่ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการประสานงานการมองเห็น ช่วยให้การทำงานของสมองประสานงานกันได้ดีขึ้น

ดร.อัลฟ์ฮิลด์ อักเซลเซ่น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ใช้แทรมโพลีนในการรักษาผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางระบบประสาทกล่าวว่า “เมื่อคุณกระเด้งบนแทรมโพลีน คุณกำลังเคลื่อนไหวและออกกำลังกายเซลล์สมองทุกเซลล์ เช่นเดียวกับที่คุณออกกำลังกายเซลล์ร่างกายอื่นๆ”

สำรวจงานวิจัย ความเชื่อมโยงของการเล่นแทรมโพลีน (Trampoline) กับ IQ ของเด็กๆ

  1. งานวิจัยจาก Journal of Sports Science & Medicine (2020)
    ศึกษาวิจัยการออกกำลังกายด้วยแทรมโพลีน ต่อพัฒนาการทางสมองในเด็กอายุระหว่าง 6-10 ปี จำนวน 60 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มทดลอง ให้เด็กกลุ่มหนึ่งเล่นแทรมโพลีนวันละ 30 นาที นานต่อเนื่องเป็นเวลา 8 สัปดาห์ กับเด็กอีกกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้ออกกำลังกายด้วยแทรมโพลีน และผลลัพธ์ที่ได้คือ
    • กลุ่มเด็กที่เล่นแทรมโพลีน มีระดับคะแนน IQ (วัดโดย Stanford-Binet Intelligence Scales) เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7.4 จุด
    • กลุ่มเด็กที่เล่นแทรมโพลีน มีการพัฒนาด้านความทรงจำ (Working Memory) และการเพิ่มช่วงความสนใจ (Attention Span) ที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
  2. งานวิจัยของ ดร.ฌอง แอร์ส นักอาชีวบำบัดผู้คิดค้นทฤษฎี Sensory Integration
    ผลจากการศึกษาพบว่า การเคลื่อนไหวที่ซับซ้อน เช่น การกระโดด หมุนตัว หรือ เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องบนแทรมโพลีน สามารถกระตุ้นการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ และเสริมสร้างการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทเดิม ส่งผลให้เด็กที่เล่นแทรมโพลีนมีความสามารถทางสติปัญญาเพิ่มสูงขึ้น
  3. การศึกษาจากมหาวิทยาลัย University of Eastern Finland (2018)
    ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมทางกาย กับพัฒนาการของสมอง และผลการเรียนของเด็ก พบว่ากลุ่มเด็กที่มีกิจกรรมการเคลื่อนไหวที่เป็นจังหวะ (Rhythmic Movement) เช่น การกระโดดบนแทรมโพลีน มีโครงสร้างสมองที่หนาแน่นกว่าในบริเวณฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ และความจำ

เด็กที่เล่นแทรมโพลีน ได้คะแนนสอบสูงกว่าเพื่อนในห้อง 12%

สมาคม National Association for Sport and Physical Education (NASPE) ได้ทำการทดสอบและวิจัยในปี 2021 พบว่า เด็กที่มีการออกกำลังกายแบบเคลื่อนไหวเต็มตัว อย่างน้อยวันละ 30 นาที มีคะแนนสอบในวิชาคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ สูงกว่าเด็กกลุ่มควบคุมมากถึง 12% โดยกิจกรรมที่มีการกระโดดเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และเต็มตัว เช่น การเล่นแทรมโพลีน ถูกจัดอยู่ในกลุ่มกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางปัญญา (Cognitive Development) อย่างชัดเจน

ประโยชน์ของแทรมโพลีนต่อพัฒนาการเด็กที่มีหลักฐานรองรับ

  1. พัฒนาทักษะการทรงตัวและการประสานงานของร่างกาย
    การกระโดดบนแทรมโพลีนเป็นการฝึกฝนทักษะการทรงตัว (Balance) และการประสานงานของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ (Coordination) ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญสำหรับเด็ก การศึกษาในวารสาร Science & Sports พบว่าเด็กที่ฝึกการทรงตัวผ่านการเล่นแทรมโพลีนอย่างสม่ำเสมอมีพัฒนาการด้านการควบคุมร่างกายที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  2. กระตุ้นระบบประสาทเวสติบูลาร์ (Vestibular System)
    การเคลื่อนไหวขึ้นลงบนแทรมโพลีนช่วยกระตุ้นระบบประสาทเวสติบูลาร์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบประสาทที่ควบคุมการทรงตัวและการรับรู้ตำแหน่งของร่างกายในอากาศ การทำงานที่ดีของระบบนี้ช่วยให้เด็กมีความมั่นคงในการเคลื่อนไหวและสามารถนั่งนิ่งได้ดีขึ้นเมื่อจำเป็น ตามการศึกษาของ American Occupational Therapy Association
  3. เสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางและความแข็งแรงโดยรวม
    การรักษาสมดุลขณะกระโดดช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core muscles) ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของท่าทางที่ดีและประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ นักกายภาพบำบัดเด็กมักแนะนำกิจกรรมที่เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลาง เพราะมีส่วนช่วยพัฒนาทักษะการเขียนและการทำกิจกรรมที่ต้องใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กด้วย
  4. ช่วยปลดปล่อยพลังงานส่วนเกินและลดความเครียด
    เด็กมีพลังงานมหาศาล และการมีช่องทางในการปลดปล่อยพลังงานอย่างเหมาะสมช่วยให้พวกเขาสามารถจดจ่อกับกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิได้ดีขึ้น การศึกษาในวารสาร Pediatric Exercise Science พบว่ากิจกรรมทางกายที่สนุกสนานอย่างการกระโดดแทรมโพลีนช่วยลดอาการวิตกกังวลและอาการซน-สมาธิสั้นในเด็กได้
  5. กระตุ้นการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัส
    การเล่นแทรมโพลีนเป็นกิจกรรมที่ให้ข้อมูลทางประสาทสัมผัสหลายด้าน (Multi-sensory input) ทั้งการสัมผัส การมองเห็น และการรับรู้การเคลื่อนไหว นักกิจกรรมบำบัดยืนยันว่าประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่หลากหลายช่วยพัฒนาการเชื่อมโยงใยประสาทในสมองของเด็ก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเรียนรู้

กรณีศึกษา: ประโยชน์ที่เห็นได้จริง

น้องปอนด์ เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่มีความยากลำบากในการนั่งนิ่งและจดจ่อกับการเรียน หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ติดตั้งแทรมโพลีนในบ้านและให้เขาได้เล่นวันละ 20 นาทีก่อนทำการบ้าน พบว่าน้องปอนด์สามารถนั่งทำกิจกรรมได้นานขึ้น และมีสมาธิจดจ่อกับงานได้ดีขึ้น

"การให้น้องได้ปลดปล่อยพลังงานก่อนนั่งทำการบ้านช่วยได้มาก เมื่อก่อนการทำการบ้านแต่ละครั้งเหมือนสงครามเย็น แต่ตอนนี้น้องสามารถนั่งทำงานได้นานถึง 30 นาทีโดยไม่ลุกไปมา" คุณแม่ของน้องปอนด์เล่า

คำแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง พาลูกเล่นแทรมโพลีนอย่างไรให้ได้ผลถึงระดับ IQ

  1. เล่นแทรมโพลีนอย่างน้อยวันละ 10-30 นาที เพื่อกระตุ้นการทำงานของสมอง และ การไหลเวียนของระบบเลือด
  2. ผสมกิจกรรมเสริมทักษะร่วมกับการเล่นแทรมโพลีน เช่น เล่นเกมนับจังหวะ, กิจกรรมทายทิศทาง หรือ การกระโดดตามคำสั่ง เพื่อฝึกฝนการประมวลผล
  3. เล่นแทรมโพลีนกับสมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนในวัยเดียวกัน เพื่อเสริมสร้างทักษะทางสังคม และการสื่อสาร
  4. เลือกแทรมโพลีนที่ปลอดภัย และเหมาะสมกับวัย เช่น แทรมโพลีนที่มีตาข่ายกันตก, แทรมโพลีนไร้สปริง และแทรมโพลีนที่ใช้วัสดุคุณภาพสูง สามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดี

การเล่นแทรมโพลีน ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมสนุกสนานสุดโปรดของเด็กๆ เท่านั้น แต่ยังให้ผลกระทบที่ลึกซึ้งต่อพัฒนาการทางสมอง IQ และความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กๆ การเสริมกิจกรรมเล่นแทรมโพลีนเข้าไปในชีวิตประจำวันของลูก จึงเท่ากับเป็นการลงทุนด้านการศึกษา และสุขภาพระยะยาวของเด็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

เริ่มต้นการพัฒนาแบบองค์รวมให้ลูกคุณวันนี้!

การลงทุนในแทรมโพลีนคุณภาพดีเป็นการลงทุนในพัฒนาการแบบองค์รวมของลูกคุณ ทั้งร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการให้ลูกได้เล่นแทรมโพลีนอย่างสม่ำเสมอ และคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

เด็กๆ หลายคนชื่นชอบความตื่นเต้นที่ได้เล่นแทรมโพลีน ดังนั้นการเริ่มต้นด้วยแทรมโพลีนคุณภาพสูง จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองต้องให้ความใส่ใจในการเลือกแทรมโพลีนคุณภาพดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยของน้องๆ หนูๆ

Smartplay Only นำเสนอแทรมโพลีนคุณภาพสูงที่สุดในตลาด เพื่อให้เด็กๆ ได้ผลลัพธ์อันยอดเยี่ยม และประโยชน์ด้านกายภาพอย่างเต็มที่จากแทรมโพลีน ฝึกฝนทักษะการกระโดดในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ และปลอดภัยได้ทุกวัน กับแทรมโพลีนจาก Smartplay Only แทรมโพลีนคุณภาพ อันดับ 1 มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก!

Smartplay Only ยืน 1 เรื่องแทรมโพลีน เครื่องออกกำลังกายในบ้าน เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านแทรมโพลีน พร้อมจัดหาอุปกรณ์แทรมโพลีนที่เหมาะสำหรับวัยเด็กโดยเฉพาะ เพิ่มความปลอดภัยขั้นสุดด้วยอุปกรณ์เสริมที่ให้ความอบอุ่นใจแก่ผู้ปกครอง ไม่ว่าจะเป็นแทรมโพลีนพร้อมตาข่ายกันตก,
แทรมโพลีนไร้สปริง หรือ แทรมโพลีนที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ติดตั้งพร้อมรั้วกันตก 100% กระโดดเด้งได้อย่างมั่นใจ รู้สึกอิสระเต็มที่

ไม่ว่าจะเป็นแทรมโพลีนแบบไหน แทรมโพลีนจาก Smartplay Only เล่นได้ทุกเพศทุกวัย สมาชิกในครอบครัวสนุกด้วยกันได้ทุกคน แถมได้สุขภาพดี!

 


 

 

รุ่นใหญ่วางนอกบ้าน
แนะนำรุ่นเล็กวางในบ้าน เพิ่มความสูง


 

 

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ แทรมโพลีน Trampoline เครื่องออกกำลังกายในบ้าน จาก Smartplay Only

Tel: 092-742-7447 | Email: info4rjw@gmail.com
Line Official: @SmartPlayOnly | Facebook: JumpSmartPlayOnly